เครสเชนโด้ (อังกฤษ: Crescendo) เป็นซูเปอร์กรุ๊ปวงหนึ่งที่เริ่มต้นจาก นรเทพ มาแสง (นอ) มือเบสจากวง "พอส" และ "ทีโบน" ที่ได้ชักชวนเพื่อนนักดนตรีฝีมือดีจากหลากหลายวง ไม่ว่าจะเป็น เอกพงศ์ เชิดธรรม (เอก) อดีตมือกลองจากวง "ซีเปีย" ธีรพงษ์ ธนานิกกุล (จั๋ง) ซึ่งเคยมีผลงานร่วมกับ "โยคีเพลย์บอย" มาก่อน พีระพัฒน์ เถรว่อง (บี) อดีตนักร้องนำจากวง "อาร์อาร์อาร์แอนด์บี" และ ชินพัฒน์ หงส์อัมพร (แชมป์) รุ่นน้องร่วมสถาบันที่มีประสบการณ์ทางดนตรีไม่น้อยเช่นกัน รวมตัวกันเป็นวงเครสเชนโด้ ซึ่งทางวงนี้ได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า เครสเชนโด้ เป็นศัพท์ทางด้านดนตรีในภาษาอิตาเลียน ที่มีความหมายว่า "ค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ" เครสเชนโด้ออกอีพีอัลบั้มชุดแรกโดยที่ทำเองขายเอง ต่อมาจึงได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินกลุ่มสุดท้ายในสังกัด เบเกอรี่มิวสิก ในอัลบั้มชุดที่ 2 มีเพลงดังอย่าง "ความจริงในใจ" และ "วีนัส" ทำให้เครสเชนโด้เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
ต่อมาในปี พ.ศ. 2549 บี พีระพัฒน์ นักร้องนำ ได้แยกตัวจากการเป็นสมาชิกของวงซึ่งในอัลบั้มชุดสุดท้ายที่มีการร่วมงานกันได้ใช้ชื่อว่า Be & Crescendo หมายความว่าได้มีการแบ่งการทำงานไปตามสัดส่วนแยกจากกัน และในปีถัดมาทางวงจึงได้นักร้องนำคนใหม่เป็นผู้หญิง ชื่อ วชิรปิลันธ์ โชคเจริญรัตน์ (ริค) และมีการเพิ่ม จรรยพงศ์ สวัสดิเวทิน (รวย) มือแซ็กโซโฟนมาเสริมทัพ มีผลงานออกมา 2 ชุด เป็นอีพีอัลบั้ม คือ ใต้แสงตะวัน และ บันทึกการแสดงสด Live of Light หลังจากนั้นทางวงเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดย 2 สมาชิกที่เพิ่งเข้ามาใหม่แยกตัวออกไป ทางวงจึงได้ ชาติชาย มานิตยกุล (นัท) อดีตนักร้องนำวง โฟร์ มังกี้ส์ ซีซั่น มารับตำแหน่งนักร้องนำตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551
ในปี พ.ศ. 2553 เครสเชนโด้มีคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกในชื่อ "จุดประกาย คอนเสิร์ต ซีรีส์ 38 Crescendo Seventh Year" โดยตั้งแต่คอนเสิร์ตครั้งนั้นทางวงเหลือสมาชิกเพียงสี่คน ซึ่ง ธีรพงษ์ มือเพอร์คัสชั่นได้ลาพักจากวงชั่วคราวไปทำธุรกิจส่วนตัว ในปีเดียวกันนั้นก็ได้ออกอัลบั้มชุด Raw ซึ่งย้ายมาสังกัดค่าย สไปซีดิสก์ หลังจากนั้นก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดย เอกพงศ์ มือกลองได้ออกจากวงไป และได้ สุทธิพจน์ หวังวัฒนานุกุล (เลี้ยง) เข้ามารับตำแหน่งแทน มือเพอร์คัสชั่นอย่าง ธีรพงษ์ กลับเข้ามาร่วมวงอีกครั้ง และย้ายมาอยู่กับสังกัด สนามหลวงการดนตรี ในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และมีผลงานในปี พ.ศ. 2555 อัลบั้ม Continue
หลังจากประสบความสำเร็จจากอัลบั้ม Continue ในปลายปีเดียวกันจึงตั้งใจจะทำอัลบั้ม Legend Session แต่ก็ต้องเลื่อนการทำอัลบั้มออกไปเพราะสุทธิพจน์ออกจากวง ทำให้วงต้องสรรหามือกลองคนใหม่ และได้ นิรุจ เดชบุญ (บอส) เข้ามาเป็นมือกลองตั้งแต่ซิงเกิ้ลรักแท้อยู่เหนือกาลเวลาเป็นต้นมา
หลังจากทำอัลบั้ม Legend Session เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นัทได้ประกาศลาออกจากวง ทำให้เกิดรายการ The Next Crescendo ขึ้น เพื่อออดิชั่นหานักร้องนำคนใหม่ และกลางเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2556 จึงได้นักร้องนำคนใหม่คือ เขมวัฒน์ เริงธรรม (เก้ง) ต่อมาหลังจากได้ เก้ง เขมวัฒน์ เป็นนักร้องนำคนใหม่ได้ไม่นาน ธีรพงษ์ ก็ได้ออกจากวง ก่อนที่จะปล่อยซิงเกิ้ล "รักเธอไปก่อน" ออกมาเป็นเพลงแรกในยุคของ เก้ง เขมวัฒน์
หลังจากเปิดตัวซิงเกิ้ล รักเธอไปก่อน ทางวงได้ย้ายสังกัดจาก สนามหลวงการดนตรี มายัง วีเรคคอร์ดส์ และได้ปล่อยซิงเกิ้ล กุหลาบเล่นไฟ , รู้และเข้าใจ , เธอคือทุกอย่าง ภายหลังค่ายวีเรคคอร์ดสได้ปิดตัวลง ทางวงจึงได้ออกจากสังกัดจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ และมาทำอัลบั้มอิสระในชื่อ อัตตวิถี
ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 นรเทพ มาแสง มือเบสและหัวหน้าวง Crescendo ได้ออกมาประกาศผ่านทางเฟซบุ๊ค นรเทพ มาแสง ว่าวง Crescendo จะยุติบทบาทการทำงานของวงในเดือนเมษายน และแยกย้ายกันไปทำงานในด้านอื่น ๆ โดยจะมีเพลง รถไฟขบวนเก่า จากคอนเสิร์ต Crescendo on the Run เป็นเพลงสุดท้าย และอัลบั้ม อัตตวิถี จะเป็นอัลบั้มชุดสุดท้ายของวง